การที่ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ทีมดังของเกาะอังกฤษบุกไปชนะ ชเคนดิย่า ทีมจากมาซิโดเนียเหนือ (หรือก็คือ มาซิโดเนีย เดิม แต่มีการเปลี่ยนชื่อมาเป็น มาซิโดเนียเหนือ) 3-1 ในเกม ยูฟ่า ยูโรปา ลีก รอบคัดเลือก รอบสาม เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 24 กันยายน ที่ผ่านมา กลายเป็นประเด็นรองไปเลยเมื่อ โชเซ่ มูรินโญ่ ผู้จัดการทีม “ไก่เดือยทอง” แฉว่าเจ้าถิ่นเล่นไม่ซื่อด้วยการให้คานมันต่ำกว่าปกติ 5 เซนติเมตร
มูรินโญ่ มาจับผิดเรื่องนี้ได้ในช่วงก่อนลงเล่น โดยต้นเหตุมาจากการที่ อูโก้ โยริส กับ โจ ฮาร์ท 2 นายทวารของทีมเอะใจตอนซ้อมว่ามีอะไรแปลกๆ ก่อนจะไปฟ้อง มูรินโญ่ ซึ่งพอกุนซือชาวโปรตุกีสไปตรวจด้วยตัวเองแล้วนั้นเขาก็พบว่าประตูมันเตี้ยกว่าปกติ 5 เซนติเมตรจริงๆ ทำให้เขารีบไปแจ้งกับเจ้าหน้าที่ดูแลการแข่งขัน จนส่งผลให้มีการเปลี่ยนกรอบประตูมาเป็นกรอบประตูที่มีขนาดทั่วไป
ทั้งนี้ การที่คานมันลดลงมาต่ำกว่าปกติจะส่งผลให้ทำประตูได้ยากขึ้น ซึ่งหลายคนมองว่าเรื่องดังกล่าวส่งผลกับ สเปอร์ส มากกว่าเจ้าถิ่น เพราะทีมของ มูรินโญ่ ต้องมาเน้นเกมบุกมากกว่าอยู่แล้วจากการที่มีชื่อชั้นเหนือกว่ารวมถึงมีแนวรุกที่ฝีเท้ายอดเยี่ยมอยู่ในทีมหลายคน
ถึงกระนั้น นี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดการโกงเรื่องกรอบประตูในเกมฟุตบอลอาชีพของทวีปยุโรป
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 23 กันยายน ปี 2009 คิม คริสเตนเซ่น ผู้รักษาประตูชาวเดนมาร์กของ ไอเอฟเค โกเตบอร์ก ทีมในลีกสูงสุดของประเทศสวีเดน ตกเป็นข่าวฉาวในวงการลูกหนัง หลังจากที่เขาตั้งใจขยับเสาประตูให้มีระยะห่างระหว่างกันน้อยกว่าปกติ จนทำให้ประตูมีขนาดเล็กลง ในเกมที่ต้นสังกัดไปเยือน โอเรโบร
วิธีการของ คริสเตนเซ่น ก็เรียบง่าย นั่นคือเขาใช้เท้าช่วยเตะเสาให้มันขยับ โดยระยะทางที่ผลักเข้ามาก็อยู่ที่ไม่กี่เซนติเมตร แต่มันก็เพียงพอต่อการช่วยให้เขาเสียประตูได้ ยากขึ้น ส่วนเสามันก็ไม่ได้แข็งแรงมากนักจนทำให้เลื่อนแบบไม่ยากเย็นนัก โดยเขารีบทำในตอนที่กรรมการไม่ได้หันมาพอดีจนทำให้ไม่มีใครเห็น…นอกจากกล้องโทรทัศน์
ที่จริงในตอนแรกวิธีของ คริสเตนเซ่น ก็เหมือนจะเนียนแล้ว แต่พอเตะไปได้สัก 20 นาทีกรรมการ สเตฟาน โยฮันเนสสัน ก็เอะใจว่ามันมีบางอย่างผิดปกติจนวิ่งเข้าไปดูประตูฝั่งของ คริสเตนเซ่น แบบใกล้ชิด แล้วก็พบว่าเสาประตูมันไม่ได้ตั้งอยู่บนเส้นขีดที่กำหนดเอาไว้ เมื่อเห็นอย่างนั้น โยฮันเนสสัน ก็ขยับเสาประตูให้กลับมาอยู่บนที่เดิมทันที ก่อนจะให้เตะกันต่อไป โดยที่ คริสเตนเซ่น ไม่โดนแม้กระทั่งใบเหลืองด้วยซ้ำเพราะกรรมการไม่เห็นว่าเขาแอบขยับเสาประตู และอาจจะคิดว่ามันเป็นความผิดพลาดของเจ้าหน้าที่สนาม
ท้ายที่สุดแล้วเกมนี้จบลงด้วยการเสมอกัน 0-0 ซึ่งหลังจบเกมไปแล้วนั้น คริสเตนเซ่น ยอมรับโดยดีว่าเขาตั้งใจขยับเสาประตูไปเอง และที่น่าตกใจไปกว่านั้นก็คือเจ้าตัวบอกว่าที่จริงแอบทำอย่างนี้มาหลายเกมแล้ว ก่อนที่จะโดนจับได้ในเกมกับ โอเรโบร ทำให้บางคนพูดว่านี่อาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ก่อนหน้าเกมนั้นเขาเก็บคลีนชีทในลีกได้ 4 นัดติดต่อกันก็ได้
“ผมได้เคล็ดลับนี้มาจากเพื่อนผู้รักษาประตูของผมเมื่อไม่กี่ปีก่อน และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาผมก็ทำอย่างนี้อยู่บ่อยๆ” คือสิ่งที่ คริสเตนเซ่น ให้สัมภาษณ์กับ อาฟทอนบลาเด็ต หนังสือพิมพ์สวีเดน ส่วนเชิ้ตดำ โยฮันส์สัน เผยว่า “ถ้าผมเห็นเขาทำอะไรแบบนี่้แล้วล่ะก็ ผมก็คงจะเตือนเขาไปแล้ว”
แน่นอนว่านี่เป็นเรื่องฉาวใหญ่โตจนทำให้สหพันธ์ฟุตบอลสวีเดน (เอสวีเอฟเอฟ) รีบทำการสอบสวน แต่พอถึงเดือนตุลาคมในปี 2009 เอสวีเอฟเอฟ ก็ตัดสินว่า คริสเตนเซ่น จะไม่โดนลงโทษใดๆ ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นการปรับเงินหรือการโดนแบน
สาเหตุที่ เอสวีเอฟเอฟ ตัดสินแบบนั้นเป็นเพราะกรรมการไม่เห็นการกระทำผิดของ คริสเตนเซ่น ด้วยตาของตัวเอง และต่อให้ทำผิดจริงมันก็เป็นความผิดที่สมควรโดนเพียงใบเหลือง ไม่ได้รุนแรงถึงขึ้นเป็นใบแดง แม้ว่าเกมมันจะเตะในสภาพที่กรอบประตูเล็กกว่าปกติมาแล้ว 20 นาที รวมถึงแม้ว่า คริสเตนเซ่น จะเคยทำมาแล้วหลายนัดก็ตาม
“ผมคิดว่ามันเป็นคำตัดสินที่ถูกต้องแล้วครับ” คริสเตนเซ่น กล่าวด้วยความโล่งอกสุดขีด พรอมกับบอกว่า “มันเป็นเรื่องดีที่เรื่องนี้ถูกนำมาตีแผ่ และผมสัญญาว่าผมจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว”
สำหรับ คริสเตนเซ่น นั้น ถือเป็นคนที่ประสบความสำเร็จรายหนึ่ง เขาได้แชมป์ สวีดิช คัพ กับ สวีดิช ซูเปอร์คัพ ร่วมกับ โกเตบอร์ก อย่างละ 1 สมัย รวมถึงได้แชมป์ แดนิช ซูเปอร์ลีกา กับ แดนิช คัพ ร่วมกับ เอฟซี โคเปนเฮเก้น อีกรายการละ 4 หน โดยปัจจุบันอดีตนายทวารวัย 41 ปียังโลดแล่นอยู่ในวงการฟุตบอล เพียงแต่เปลี่ยนบทบาทมาเป็นโค้ชผู้รักษาประตูให้กับ เอฟซี โคเปนเฮเก้น
https://www.youtube.com/watch?v=rEN_o3xYfEE&feature=emb_title&ab_channel=HolyJonte
สำหรับช่องทางการติดตาม : http://ufabetlucky.com