“รัสเซีย” ประเทศกว้างใหญ่แดนยุโรปที่เป็นจุดหมายในฝันของนักท่องเที่ยวทั่วโลก แม้ว่า ในอดีตประเทศรัสเซียจะเคยเป็นประเทศปิดขนได้ฉายาว่า “ดินแดนหลังม่านเหล็ก” แต่หลังจากการเปิดประเทศแล้ว รัสเซียก็กลายเป็นอีกหนึ่งประเทศท่องเที่ยวที่มีเอกลักษณ์อันโดดเด่น มีเสน่ห์ และความเก่าแก่ที่ถูกอนุรักษ์ไว้ไม่จางหายไปตามกาลเวลา ดังนั้นเราอยากให้คุณเปิดใจกว้างและมาทำความรู้จักรัสเซีย และที่เที่ยวรัสเซียให้มากขึ้น เพื่อให้คุณได้รู้ว่า ประเทศแห่งนี้งดงาม และน่าอยู่มากกว่าที่คุณคิด
รัสเซียประเทศที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่บนทวีปยุโรปและเอเชียโดยมีเทือกเขาอูราลแบ่งแนวเขตทั้งสองทวีปไว้ ส่วนการเข้าประเทศรัสเซียนั้นไม่มีความยุ่งยากสำหรับเราแต่อย่างใด เพราะที่นี่เขาใจดีให้ฟรีวีซ่าคนไทยไปท่องเที่ยวได้ถึง 30 วันเลยล่ะ! ถ้าพูดถึงสภาพอากาศและฤดูกาลที่นี่แล้ว ก็ค่อนข้างอำนวยให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวกันได้ทั้งปี
รัสเซียเป็นประเทศทีตั้งอยู่ทางซีกโลกเหนือ จึงทำให้อากาศเย็นตลอดปี และความงามที่แตกต่างไปกันในแต่ละฤดูก็เป็นอีกหนึ่งจุดดึงดูดนักท่องเที่ยว เริ่มจากฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม – พฤษภาคม) ที่คุณจะได้ชมดอกไม้บานสะพรั่งหลังฤดูเหน็บหนาวกับอากาศอบอุ่นกำลังดี ฤดูร้อน (มิถุนายน – สิงหาคม) จัดว่า เป็นไฮซีซั่นเลยก็ว่าได้ เพราะอากาศไม่ร้อนจนเกินไปราวๆ 15-20 องศา แถมคุณจะได้ชมพระอาทิตย์ที่อยู่บนฟ้ายาวนานถึงเที่ยงคืน ทำให้บ้านเมืองสว่างสดใสตลอดวัน
ส่วนฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน – พฤศจิกายน) ได้ชื่อว่า Golden Autumn เนื่องจากใบไม้จะเปลี่ยนสีเป็นเหลืองส้มอย่างพร้อมเพรียงกันท่ามกลางอากาศเย็นสบาย และฤดูหนาว (ธันวาคม – กุมภาพันธ์) มีอุณหภูมิติดลบ -10 ไปถึงจน -30 องศา ซึ่งถือว่า หนาวจัดมากสำหรับเราคนไทยจึงต้องเตรียมเสื้อผ้าและอุปกรณ์กันหนาวให้พร้อมเป็นพิเศษ อีกทั้งฤดูนี้เหมาะแก่การไปปั้นหิมะ เล่นสกี นั่งสุนัขลากเลื่อน ร่วมกิจกรรมวันคริสมาสต์ หรือ ตามล่าหาแสงเหนือที่เมืองมูร์มันสค์กันได้แบบจุใจจนลืมหนาวไปเลย
แต่หลัก ๆ แล้วสิ่งที่ดึงดูดใจให้นักท่องเที่ยวทุกมุมโลกมาที่นี่คือ… สุดยอดสถาปัตยกรรมอันงดงามตระกาลตาต่าง ๆ อย่างพระราชวัง ประเทศรัสเซียขึ้นชื่อด้านพระราชวังที่สวยงาม และเปิดบริการให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมหลายแห่ง โดยเฉพาะพระราชวังเครมลิน (Grand Kremlin Palace) ที่เป็นศูนย์กลางของเมืองหลวงมอสโคว์ที่เปรียบดังหัวใจของรัสเซียที่เก่าแก่ที่สุด ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1837 และถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์กรยูเนสโก้ ปัจจุบันได้จัดเป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมทรัพย์สมบัติของพระเจ้าแผ่นดินที่สมบูรณ์เกินกว่าจะประเมินค่า โดยลักษณะวังจะดูเด่นเป็นสง่าด้วยสีขาวกับโดมสีทองสะท้อนแสงแดดและหลังคาสีเขียวทะเล ล้อมรอบด้วยป้อมปราการอิฐ อีกหนึ่งพระราชวังที่น่าเยี่ยมเยือนคือ พระราชวังฤดูร้อนเปโตรวาเรส (Peterhof Palace) ในเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากประเทศฝรั่งเศส ตัววังมีขนาดใหญ่ และมีการตกแต่งภายในแบบเรอเนซองส์ รอบวังก็มีน้ำพุใหญ่หน้าวังและจุดอื่น ๆ กว่า 150 แห่ง สวนสวยเขียวชอุ่ม และรูปปั้นสีทองอร่ามงดงามกว่า 255 รูปราวที่กันกับภูมิประเทศโดยรอบราวกับอยู่ในสวรรค์เลยล่ะ และยังมีพระราชวังอื่น ๆ ที่งดงามไม่แพ้กับสองที่นี้ เช่น พระราชวังฤดูหนาว (Hermitage Museum) และพระราชวังแคทเธอรีน (Catherine Palace)
เท่านั้นไม่พอ เนื่องจากคนรัสเซียได้นับถือศาสนาคริสต์นิกายออร์โธดอกซ์รัสเซียมาช้านาน ประเทศแห่งนี้จึงเต็มไปด้วยวิหารที่สวยงามมากมาย ไม่ว่าจะเป็นวิหารเซนต์บาซิล (Saint Basil’s Cathedral) โบสถ์รูปทรงหัวหอมสไตล์รัสเซียนกอธิกด้วยอิทธิพลจากยุโรปตะวันตก ทำให้มีสีสันและลวดลายแปลกตาด้วยโทนสีส้ม แดง เขียวและเหลือง ซึ่งใครได้มาที่นี่ต้องมาแวะถ่ายรูปโบสถ์แห่งนี้อย่างแน่นอน ต่อด้วยมหาวิหารโดมทองเซนต์ซาเวียร์ (Cathedral of Christ the Saviour) สุดอลังการของนิกายออร์โธดอกซ์ที่สูงที่สุดในโลกริมแม่น้ำมอสโคว์ อันเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวรัสเซียที่จัดเป็นอนุสรณ์แห่งชัยชนะที่รัสเซียรอดพ้นจากสงครามนโปเลียน ใช้เวลาสร้างถึง 45 ปีควรค่าแก่การเยี่ยมชมมาก ๆ อีกหนึ่งไฮไลท์ที่ต้องจัดกันเลยคือ วิหารเซนต์ไอแซค (St. Isaac’s Cathedral) วิหารที่ตกแต่งด้วยทองคำแท้ 100 กิโลกรัมบนยอดโด หินอ่อนกว่า 43 ชนิดและเป็นวิหารออร์โธด็อกซ์แห่งเดียวที่ใช้กระจกสี ซึ่งออกแบบโดยสถาปนิกชาวฝรั่งเศสในสไตล์เรเนสซองส์และบาโรก อีกทั้งภายในถูกสรรสร้างด้วยความละเอียดอ่อนกับรูปภาพสำคัญต่าง ๆ มากกว่า 400 ชิ้น นอกจากนี้ยังมีวิหารต่าง ๆ อีกมากมายที่งดงามไม่แพ้กัน
มีจุดอื่น ๆ ที่นักท่องเที่ยวนิยมไปเยือนกันอย่างจัตุรัสแดง (Red Square) ลานกิจกรรมในมอสโคว์ ที่ซึ่งรวมโบสถ์และวิหารเข้าไว้ด้วยกัน และใช้สีแดงตกแต่งที่ให้ความหมายถึงสีแห่งโชคลาภ ความมั่นคง ร่ำรวยและชัยชนะ สถานีรถไฟใต้ดินมอสโคว์ (Moscow Metro) ที่เป็นรถไฟใต้ดินที่สวยงามที่สุดในโลก ด้วยการประดับลวดลายแบบโมเสกและรูปปั้นสำริดที่ทำให้ที่นี่เป็นมากกว่าแค่รถไฟใต้ดิน หรือ จะเปลี่ยนไปแนวชมธรรมชาติที่ทะเลน้ำจืดสาบไบคาล (Baikal) ที่เก่าแก่ กว้างใหญ่ และลึกที่สุดในโลก ป่าไทกา (Taiga) ป่าผืนใหญ่อลังการที่สุดและมีขนาดใหญ่กว่าอะเมซอน ถ้ำคัมชัตคา (Kamchatka) ถ้ำน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในโลกและสวยที่สุดในโลก มีลักษณะเป็นอุโมงค์ยาวใต้เขตภูเขาไฟ ให้ความรู้สึกหนาวเย็นเหมือนอยู่ในเรื่องการ์ตูน Frozen เลย!
เห็นไหมล่ะว่า รัสเซียเป็นประเทศที่ดีงามขนาดไหน ทั้งสถาปัตยกรรมที่งดงาม วิวหลักล้านและอากาศดี ๆ ตลอดปี ซึ่งสร้างความประทับใจให้นักท่องเที่ยวมานักต่อนักแล้ว และเราขอยืนยันอีกหนึ่งเสียงว่า หากคุณได้มาเที่ยวที่รัสเซีย คุณจะได้ความทรงจำและความประทับใจที่เกินคาดกลับบ้านไปชัวร์
สนับสนุนบทความ โดย unithaitravel.com
