สวัสดีครับ กลับมาพบกันอีกเเล้วผมแก็ปจากเพจ KonbaTravelวันนี้ผมมากับ “คู่มือ3วัน3คืน พาเที่ยวทั่ว-ยะโฮร์บาห์รู”จะยาวมากๆหน่อย เพราะเป็นคู่มือแบบละเอียดยิบ ครบ จบ ที่เดียวตั้งเเต่ดอนเมือง การเดินทาง สายรถเมล์ สถานที่เที่ยว ย้ำครบถ้วนในที่เดียว!!!อ่านปุ๊บ ตามไปได้เลยก่อนอื่นขอเกริ่นก่อนว่ายะโฮร์บาห์รูอยู่ทางตอนใต้ของเพื่อนบ้านมาเลเซียมีสะพานเชื่อมติดกับสิงคโปร์ เรียกได้ว่าเที่ยวที่นี่เสร็จ นั่งรถไปเที่ยวสิงคโปร์ต่อได้เลยยิงปืนนัดเดียว ได้นกสองตัว!!!เเละถ้าพูดถึงเมืองนี้ก็หนีไม่พ้น “Legoland” แห่งเเรกของเอเชียซึ่งรีวิวนี้ก็ไม่พลาด เเต่นอกจากนั้นจะมีอะไรอีก ผมอาสาพาไปลุยเองงงงพร้อมจะไปกันหรือยังงง พร้อมเเล้วลุยยยยยย เริ่มจากจองตั๋วก่อนเลยง่ายๆ เพราะตอนนี้มีบินตรงดอนเมือง-ยะโฮร์บาห์รูอยู่เเล้วโดยสายการบินของ Airasia นั่นเองงราคาก็ไม่แพงไปกลับประมาณ 3,000 บาทเท่านั้นเอง(แต่ทริปนี้ ผมใช้คะแนนสะสม BIG Points แลกตั๋วฟรี อิอิ ใครอยากรู้ว่าทำยังไงเดี๋ยวผมทำขั้นตอนมาบอกในเพจอีกที เพราะเดี๋ยวพูดในนี้จะยาว ไปกดไลค์เพจรอเลยย ;D) เมื่อได้ตั๋วเรียบร้อยเเล้ว ก็แลกเงิน แพคกระเป๋าบนหลัง ……เเล้วลุย!!ไปเริ่มที่ดอนเมืองกันเลย วุ้วฮุ้วววว มาถึงก็ขี้เกียจไปต่อแถว 555โชคดี Airasia มี Self Check-in สบายเลยยยยยยยยยยยยย ได้ตั๋วมาเเล้วววว ก็เดินเล่นในดอนเมืองรอเวลาเครื่องผมออกเวลา 20.45 น.(เวลาไทย) ถึงที่สนามบิน Senai 23.59 น.(เวลามาเลเซีย)ปล.เวลาบ้านเค้าเร็วกว่าเรา 1 ชม. เเสดงว่าใช้เวลาเดินทางจริงประมาณ 2 ชม.ครับ ไปขอถ่ายรูปกันหน่อย ระหว่างรอเครื่องออกกก เครื่องมาเเล้วววววววววววววววววววววเอาเเล้ว กับการเที่ยวออกนอกประเทศครั้งเเรกของผม KonbaTravelตื่นเต้นเหมือนกันนน ไปขึ้นเครื่องกัน ;D 2ชม. บนเครื่องก็ไม่นานเท่าไหร่นะครับผมโหลดหนังไปดูในมือถือ แปปเดียวก็ถึงเเล้ว 55555 เวลา 00.00น. (หลังจากนี้จะพูดเวลา ณ มาเลเซีย เเล้วนะครับ)มาถึง Senai Airport เรียบร้อยยย ไหนๆก็ดึกเเล้ว เลยนอนโรงเรมหน้าที่ตั้งหน้าสนามบินเลย ไม่แพงนะครับ 1,500 บาทนอนได้ 4 คน รวมอาหารเช้าด้วย ง่วงเเล้วนอนพักผ่อนกันก่อนนนพริบตาเดียวก็เช้า จะได้เข้าเมืองเเล้วเที่ยวกันนนน ฟึ่บบบบ แว่บเดียวเช้าเเล้วว 5555 มองเห็นสนามบินเลย บอกเเล้วใกล้สนามบินมากกก ลงมาทานอาหารเช้า อันซ้ายสามเหลี่ยมรสชาติคล้ายๆแป้งกะหรี่ปั๊บห่อด้วยไส้ไก่เเล้วก็เหมือนไข่เจียวผัดคลุกแฮมรสชาติสำหรับผมจะจืดๆหน่อย เเต่ก็ไม่เป็นไร ฟรี 55555555ท้องอิ่มเเล้วไปเข้าเมืองกันดีกว่า หลังจากกินข้าวเสร็จ ก็ Check out เเล้วเดินกลับมาที่สนามบินเพื่อนั่งรถบัสเข้าเมืองกันนนนนนน โดยรถเข้าเมืองจะเป็นของ Causeway Link ซื้อได้ในโถงสนามบินรถจะวิ่งไปถึง JB Sentral หรือศูนย์กลางการคมนาคมของเมืองยะโฮร์บาห์รู ราคาคนละ 8 ริงกิต (ริงกิตละประมาณ 7-8 บาท) นั่งรถเข้าเมืองก็จะประมาณ 30-40 นาที ชนบ้านเมืองของเค้าเพลินๆๆๆจากที่เห็นก็จะเต็มไปด้วยสีเขียวของต้นไม้มากมาย แดดบ้านเค้าไม่ร้อนเเสบเหมือนบ้านเรานะครับ 555 ถึงเเล้ววว สุดสายที่ JB Sentral ที่นี่เป็นศูนย์กลางคมนาคมเลย มีรถบัส รถไฟ ไปเมืองต่างๆได้เลย ทั้ง KL หรือนั่งไปสิงคโปร์ก็ยังได้ เรานั่งรถบัสมา ก็ลงที่นี่เลย ทริปนี้มี 3คน ผม มีเพื่อนเเละเเม่ของผม นั่นเองเราก็เดินเข้าไปที่ JB Sentral เพื่อจะไปดูแผนที่สถานที่ท่องเที่ยวกันก่อน หิวเมื่อไหร่ก็เเวะมา เซเว่น อีเลเว่นนน 555 เช้าๆ ขอเติมพลังกันหน่อยยยยราคาเบากว่าที่ไทยครับผม ประมาณ 10-15 ริงกิต เดินไป information ใน JB Sentral ก็จะเห็นแผนที่สถานที่ท่องเที่ยวทั่วเมือง ยะโฮร์บาห์รูมีที่ไหนบ้างอะไรยังไง แนะนำให้ไปถ่ายเก็บไว้ครับผมเเล้วเที่ยวตามในนี้เลยยย ง่ายๆ เดินเอาได้ 555ส่วน Legoland ผมจะไปวันพรุ่งนี้นะครับ เมื่อรู้เเล้วว่าจะไปเดินเที่ยวไหนบ้างวันนี้มองไปอุ้ย เจอที่พักของเราพอดีที่พักผมสองคืนจากนี้ ฝากที่ Amari Johor bahru ครับแนะนำเลย ดีมาก!!!!!อยู่ใกล้ๆ JB Sentral เลย (อันนี้มองจาก information ใน JB Sentral) ไปที่พักกันก่อนดีกว่า จะได้ไปเก็บกระเป๋าก่อนออกเที่ยวการไป Amari ง่ายๆก็เดินผ่านทางห้าง Komtar ทะลุไปได้เลยยยย เดินเข้ามาในห้าง Komtar ก็เเอร์เย็น 555ร้านขายของมากมาย จริงๆละแวกนี้มีหลายห้างเลยมี City square ด้วยอาหารของกิน ขายมากมาย รวมถึงร้านเสื้อผ้า Outlet ด้วย เเม่เเละผมซื้อไปพอสมควร ฮ่าๆๆๆๆ พอเดินทะลุห้าง Komtar มาก็จะมองเห็น Amari อยู่ตรงข้ามของถนนเลย เดินผ่านตึก Zenite นี้ไปเลย ทางเข้าโรงแรมจะอยู่อีกฝั่ง เดี๋ยวดึกๆแถวนี้มีร้านชิวด้วย ผมก็มานั่งดื่มอยู่ เเต่ตอนนี้ขอเข้าที่พักก่อนนนน ถึงเเล้ววววครั้งเเรกของผมเลยที่ได้พัก Amari 5555555555555555ต้องขอซึมซับเยอะๆหน่อยที่นี่เป็นโรงเเรมใหม่ เปิดมาไม่นาน พึ่ง HBD 1 ปี ไปเดือนเมื่อ พ.ค. 2561 เอง ขึ้นลิฟท์มา Check-in ที่ชั้น6 กันก่อน เพราะ Lobby อยู่ชั้นนี้ น้ำสมุนไพรเย็นๆ มาให้ดื่มให้ชื่นใจ ระหว่าง Check-in ได้ห้องเเล้ว “Grand Deluxe Room” เป็นห้องพักหัวมุม มีระเบียงเรื่องบรรยากาศในห้อง หรือมีกิจกรรมอะไรที่ทำได้ที่นี่บ้างเดี๋ยวผมจะมาพูดถึงอีกครั้งนะครับเพราะตอนนี้วางกระเป๋าเเล้ว ขอไปลุยยยยยเที่ยวก่อน!!! อิอิ วันแรกเราจะเดินไปตามถนนเพื่อไปท่องเที่ยวรอบเมืองตามแผนที่ถ่ายรูปมา (ไปถ่ายแผนที่ท่องเที่ยวตรง information ของ JB Sentral นะ) เดินชมเมืองได้เลย เพราะแดดที่นี่ไม่ร้อนนเเละเเต่ละที่ไม่ห่างจากกัน บรรยากาศบ้านเมือง เเถวๆ City square ที่นี่ไฟแดงทางม้าลาย เเม้จะไม่มีคนข้ามรถจะจอดนะครับ ทั่วโลกมีวินัยดีกว่าที่ไทยเยอะ ฮ่าๆๆๆ เดินมาไม่ไกลมาเจอกับที่เเรก วัดแขกเเถวสาทร เอ้ยไม่ใช่!!!! 5555ที่แรกคือ ” The Sri Raja Mariamman Temple” ผมก็ไม่ได้มีความรู้ทางด้านศิลปะเลย 55แต่เป็นสถาปัตยกรรมเเนวคล้ายๆวัดแขกเลย สวยอยู่เหมือนกันครับ Contrast กับตึกเมืองที่อยู่รอบๆ เดินตามทางไปต่อกันที่ต่อไปปป แม่ผมและเพื่อนเเวะซื้อน้ำส้มข้างทาง แก้กระหาย เดินมาอีกไม่ไกล จะเจอตึกที่เด่นด้วยเลข” 1″ แบบนี้ เมื่อเห็นตึกนี้ให้คุณหันไปทางซ้ายยยคุณจะเจอ “The Sultan Ibrahim Building” เป็นลักษณะอาคารสุลต่านเป็น 1 ในสถานที่สำคัญในเมืองยะโฮร์บาห์รูเลย ป่ะะะะ ที่อื่นกันต่อทิศทางไม่ยาก มองซ้ายมองขวาหามัสยิดสีน้ำเงินนนน มองไปไม่ไกลจากอาคารสุลต่าน ทางด้านซ้ายมือก็จะพบมัสยิดสีน้ำเงินแบบนี้ เดินตามไปเลย และที่นี่ก็คือ มัสยิดอินเดียสีน้ำเงินหรือ “Masjid India” เเต่ผมไม่ได้เข้าไปนะครับ ฮ่าๆๆๆ จากมัสยิดเดินเลยไป 50เมตรก็จะเป็นชุมชนคนจีน บ้านแบบจีน นึกว่าเยาวราช 5555555555หรือเรียกว่า “Archways” มาสวีทอะไรกันตรงนี้ครับ เหม็นความรัก 555555555พาลจริงๆ ฮ่าๆๆๆๆ จะเปิดเหม่งถ่ายรูปเท่ๆก็ได้ ฮ่าๆๆๆ หรือถ่ายกับ กราฟฟิตี้ สวยๆ เเถวนี้มีร้านนึงคนต่อคิวเยอะมาก ผมเลยไปดูเป็นเค้กกล้วยหอม เลยลองกินดูบ้างรสชาติก็อร่อยดีนะ ร้อนๆ เเต่ก็ไม่ได้มากมายขนาดนั้นไม่เเพง ถ้าผ่านไปลองเเวะชิมดูครับบ บนถนนเส้น “Archways” ยังหลายอย่างในนี้คือ “The Tiong Hua Chinese Heritage Museum”ซึ่งเหมือนเป็นพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ ตั้งอยู่ติดถนนที่อยู่ริมแม่น้ำ ที่นี่เสียค่าเข้าชมนะครับเเต่พอดีผมไม่ได้สนใจเรื่องราวประวัติศาสตร์เท่าไหร่จึงไม่ได้เข้าไปชมภายในใครเข้าไป มาบอกด้วยยยย ถ่ายรูปชิคๆ กับกำแพงบ้านเมืองเค้า อุ้ยยยเจอ อัมพว่า ที่มาเลเซีย 5555จะบอกว่าที่นี่มีร้านอาหารไทยเยอะมากกกกกกกสงสัยเค้าจะชอบกัน พักชมโฆษณา ถ่ายรูปที่เกาะกลางถนนกันสักครู่ 5555555555555 อันนี้เราเดินกลับมาที่สุลต่านเเล้วเดินไปทางขวาของอาคารสุลต่านบ้างจะพบกับ “Headquarters Of The Johor Military Force” อุ้ยยยยยยย ทหารเป็นใหญ่ 555 เห็นป้ายนี้คือห้ามเข้า 555เห็นเเล้วกลัวเลยอะ สัญลักษณ์แบบ …….. โดนยิงเลยนะ 555 เดินตรงมาเรื่อยๆ จนข้ามถนนนี้ไปโปรดระวังงงงง!! เมื่อข้ามถนนจะมองเห็น สถานที่ต่อไปที่จะไปกันนเห็นไม้กางเขนก็น่าจะพอเดาได้ว่าเป็นโบสถ์คริสต์หรือ “The Church Of Immaculate Conception” นั่นเองงง เย้มาถึงเเล้วววววว ไปดูบรรยากาศกันรอบๆ กับภายในโบสถ์กันนนน ไปมัสยิดมาเเล้ว ไปโบสถ์มาเเล้วถึงเวลาไปวัดจีนเเล้ว 5555555555ป่ะะะ!!! การจะไปวัดจีน ใจกลางตึกเมืองป่าคอนกรีตนี้ก็เพียงเดินตามทางนี้ไปไม่ไกลนัก ประมาณ 5 นาทีเห็นจะได้ และนี่คือเป้าหมาย วัดจีนหรือ “The Johor Bahru Old Chinese Temple”ตั้งซะอยู่กลางเมืองเลย Contrast แบบสุดดดดดดดดดดด บรรยากาศในวัดจีนนี้ ก็จีนแบบจีนจ๋าเลยไหว้เทพเจ้าได้ ขอพรได้นอกจากนี้ ที่นี่มีภาพวาดตามผนัง ตามประตูด้วยผมชอบที่นี่มาก สวยสำหรับผมมมม ;D ออกจากวัดจีนมา ตรงข้ามเลยจะเจอ”The Sikh Gurdwara Sahib” คิดว่าน่าจะเป็นสถานที่ทางศาสนาของศาสนาสิกข์ ตอนนี้ก็เที่ยวไปทั่วๆเมืองเเล้ววว เริ่มเพลียเวลาก็ประมาณ บ่าย 3 เข้าที่พักไปพักผ่อนก่อนดีกว่า ตอนเย็นค่อยออกมาอีกรอบที่พักก็อยู่ใกล้ๆจากวัดสิกข์เลย เอาง่ายๆที่เที่ยวที่พูดมาวันนี้ คือเดินเที่ยวได้เลย ไม่ไกลเลยจากที่พัก ไหนๆก็เสียเงินมาพักที่ Amari Johor Bahru เเล้วทั้งทีที่นี่มีกิจกรรมอะไรให้ทำบ้างนะ ? แบบฟรีไม่เสียตังเพิ่ม งั้นก่อนไปหาอะไรกินตอนเย็นของวันนี้จะมารีวิวที่พักให้ดูละกัน เผื่ออยากรู้ว่าเป็นยังไงกัน ก่อนอื่นเลยก็ห้องสมุด (Library) ที่มีคอมพิวเตอร์ให้เล่นได้ด้วยยยย นอกจากนั้นยังมีโต๊ะพูลให้เล่นฟรีๆ ด้วยยยย มีห้องดูหนังด้วย นอนบนโซฟา beanbagนิ่มๆ แอร์เย็นๆ ดูหนังเพลินๆ อ่าาาาาาาาาาาส่วนฟิตเนส กับสระว่ายน้ำของอุ้บ!! ไว้ก่อน วันสุดท้ายก่อนกลับเเล้วกันนนตอนนี้เหนื่อยเเล้วของีบแปปปคร่อกกก ZZZZZZZZZ….กริ๊งงง กริ๊งงงงงงงง นาฬิกาปลุกเเล้วเวลา 6 โมงเย็นหิวเเล้วววววววววเลยเดินลงไปร้านบุพเฟ่ต์ข้างๆที่พักเลย ในตึก zeniteลงมาเจอเลย อยู่ติดเซเว่น ขอโทษที่ผมไม่แน่ใจชื่อร้านเเต่คิดว่าเป็น Guoma Steamboatที่นี่มีหอย เนื้อ หมู ของหวาน กุ้ง ครบบบบ(ขาดน้ำจิ้มซีฟู้ด เเนะนำพกมาหน่อย จะได้ฟินๆ5555555)อร่อยมากๆ ราคาก็ไม่เเรงเลย รวมService รวมอะไรเรียบร้อยเเล้วเฉลี่ยคนละประมาณ 46-47 ริงกิต (ประมาณ 300-400 บาทเท่านั้น) – ใบเสร็จคือทาน 3 คน กินเสร็จไปเดินย่อยกันดีกว่า ยะโฮร์บาห์รูยามค่ำคืนนนเดินทั้งห้าง City square และห้าง Komtar อยู่ติดกันเลย เดินห้างสักแปป ออกมาเดินถนนหน่อยแถวๆที่เดินมาตอนเช้า ใกล้ๆที่คล้ายวัดแขก(โปรดระวังของมีค่าด้วยยยยย)ส่วนตัวผมว่าค่อนข้างน่ากลัวนิดหน่อย มีโรงแรมเล็กๆบนตึกแถวเยอะพูดตรงๆก็คือมีการขายบริการเเถวนี้ด้วยนั่นเอง Hotel…. กลับที่พักกันดีกว่า เพราะพรุ่งนี้จะไป Legoland ต้องออมเเรงกันหน่อยยยย ตึก Zenite ข้างๆ Amari จะมีร้านนี้ ซึ่งผมคิดว่าเป็นผับ น่าเข้ามากๆ เเต่พรุ่งนี้มีภารกิจ ใครมีโอกาสไป มาบอกผมทีว่าเป็นยังไงงงอยากรู้วววววววววววววว เเวะซื้อเครื่องดื่มมานั่งชิวกินบนห้อง ชมบรรยากาศเมืองจากหน้าต่างหลังจากนั้นก็อาบน้ำนอนนนนหมดวันที่ 1 ไปอย่างหนักหน่วง ฮ่าๆๆๆนอนนนน… ตึ่งตึ้งงงงง!!!เช้าเเล้วววววว มาเริ่มวันที่ 2 กันนนดีกว่าาาลงไปกินข้าวเช้ากันน โดยห้องอาหาร Amari อยู่ที่ชั้น 6 นั่นเอง“Amaya Food Gallery” ติดกับ Lobby ไปดูกันดีกว่ามีอะไรทานบ้างงง เยอะมาก ฮ่าๆๆๆๆครบถ้วนทั้งคาวหวาน ขอฝากท้องไว้ด้วยนะครับ 2 วัน อิอิ หนังท้องตึง หนังตาเริ่มหย่อน!ไม่ใช่ละะะะ ได้เวลาเดินไปขึ้นรถบัสลุย Legoland กันเเล้ววว ไม่ยากเพราะที่พักเราใกล้ JB Sentral อยู่เเล้วเดินไปที่……. ป้ายหมายเลข 2 นั่นเอง เพื่อรอรถบัส สาย LM1เพื่อนั่งไปที่ Legoland แปะตารางเวลารถบัส LM 1 ไว้ให้ จะได้กะเวลาถูกผมไปวันอาทิตย์ เเละขึ้นรถรอบ 9.00 น. รถบัสมาก็ขึ้นเลยสาย LM1 ราคา 4.50 ริงกิต ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม. ไกลอยู่เหมือนกัน งีบได้เลยยยย555555 เเละเเล้วก็มาถึง Legoland สักที ที่นี่เป็นที่แรกในเอเชีย เเละที่ 6 ของโลกกกกเลยแปะๆๆๆๆๆ ปรบมืออออ เดินตามทางตามป้ายเข้าไปเพื่อไปทางเข้าเเละที่ขายตั๋วระหว่างทางจะมีศิลปะสวยๆ ให้ถ่ายรูปสวยๆได้ เหมือนรูปที่ให้ดูด้านบนนน มาถึงทางเข้าเเล้ววววเเต่ต้องไปซื้อตั๋วกันก่อน ราคาที่นี่ MyKad คือราคาคนมาเลนะครับเราจ่ายเต็ม!!! TT TTโดยที่นี่มีทั้งส่วนที่แห้งเป็นเหมือนสวนสนุกและสวนน้ำโดยผมไม่ได้เข้าสวนน้ำนะครับ จึงตั้งใจจะซื้อ 1 day-Theme park only 199 ริงกิต****เเต่ถ้าใครบินตรงมายะโฮร์บาห์รูกับ Airaisa แบบผมก็ยื่น Boarding pass ลดได้ 30% เลยนะครับถึง 31 ธันวาคม 2561 นี้ (ผมมารู้ทีหลัง เลยไม่ได้ใช้ลด ฮือออออ) ที่ผมซื้อคือ1 Day กับ 1 Year ราคาเท่ากันคือ 199 ริงกิตผมเลยทำเป็น 1 Year เลยละกันนน ฮ่าๆๆๆนี่คือบัตรผม ตอนถ่ายเค้าบอกให้ยิ้มมมมม smileeeeee ; ) ที่เห็นคือสวนน้ำ ผมไม่ได้เข้านะครับ เลยเก็บภาพไกลๆมาฝากก โดยที่ Legoland Theme park นี้แบ่งเป็นหลายโซนเหลือเกิน ฮ่าๆ-THE BEGINNING-LEGO® TECHNIC-LEGO® KINGDOMS-IMGINATION-MINILAND-LEGO® CITY-LAND OF ADVENTURE-LEGO® NINJAGO™ WORLD ไปทีละโซนละกันนนน..ผมจะขอเริ่มจากโซน Minilandที่เป็นโซนที่จำลองสถานที่เด่นๆจากทั่วโลก มาไว้ตรงนี้ เสมือนเมืองจำลองเเต่!!!! ทุกที่ทำจากตัวต่อเลโก้ !!!!!!มันเจ๋งตรงนี้ผมไม่พูดอะไรมากดีกว่าเดี๋ยวลงรูปให้ดูเป็นตัวอย่างเเล้วลองเดาว่าสถานที่จากเลโก้เหล่านี้คือที่ไหนบ้าง(บอกใบ้ว่ามี ของไทยด้วยนะะะะ) เดาถูกกันไหมนี่คือตัวอย่างในส่วนของ Kuala Lumpur และ Johor Bahru ย้ำแค่ตัวอย่างเพราะมีเยอะกว่านี้ 5555 อันนี้คือ Angkor Wat, Cambodia Bali ที่เที่ยวสุดฮิตในยุคนี้ จากโซน อินโดนีเซียยยย ตัวอย่างจากโซน Loas เพื่อนบ้านเราเองงง KARAWEIK HALL ส่งประกวดจากประเทศเมียนมาร์นั่นเองงง ลูกพี่ใหญ่จากเอเชีย ลูกพี่จีนของเรานี่เองนำโดยกำแพงเมืองจีนเเละพระราชวังต้องห้าม หรือเเม้กระทั่ง Taj Mahal จากประเทศอินเดียย ฮอยอันนนนที่โด่งดัง จากเวียดนาม เห็นปุ๊บก็น่าจะรู้อยู่เเล้ว นี่คือตัวเเทนจาก สิงคโปร์นั่นเองงงง มีแม้กระทั่งจำลองสนามบิน KL เเละท่าเรือสินค้าอีกด้วยยยยย ไทยเเลนด์เราใช่ย่อยที่ไหน มากับวัดอรุณนั่นเองงงง ขอบอกไว้ก่อนนะครับ นี่เเค่ส่วนนึงใน Miniland เท่านั้นยังเหลืออีกเยอะ เเต่ไว้มาดูเองนะครับ ฮ่าๆๆๆๆๆๆตอนนี้ไปโซนต่อไปกันดีกว่าาาา..โซน Imaginationเป็นโซนสำหรับเด็กๆ มีเครื่องเล่นมากมาย มีการดู4มิติมีหอชมวิว เเละมีห้องไว้ต่อเลโก้เป็นรถเเข่งหรือตึกเพื่อออกแบบให้ทนต่อแผ่นดินไหวเป็นต้นอ่อๆๆ มี Pizza mania ไว้เผื่อหิวด้วยยย ฮ่าๆไปกันเลยยย เรามาเริ่มกับห้องชมวิวกันน เป็นห้องกลมๆ พาเราขึ้นไปมองมุมสูงของ Legolandเเบบ 360 องศา เพราะห้องจะหมุน 360 องศาให้เห็นวิวทุกทิศทางนั่นเองงง อันนี้คือ Lego Studios เพื่อชมหนังเกี่ยวกับเลโก้ในรูปแบบ 4 มิติ ส่วนนี้คือ DUPLO express และ playtown ไว้เล่นเครื่องเล่นวัยเด็กอย่างสนุกสนานจริงๆ เลโก้เเลนด์เหมาะสมที่จะพาเด็กมาเรียนรู้ครับ เรียกว่าพัฒนาสมองได้ดีเลย อันนี้เป็นส่วนที่ชื่อ Bulid & Testให้เด็กๆ ได้ใช้ความคิดในการสร้างสิ่งต่างๆเเล้วมาเเข่งขันหรือทดสอบกันเช่น สร้างตึกโดยแผ่นรองสามารถสั่นได้ เสมือนออกแบบสร้างตึกให้ทนเเรงแผ่นดินไหวสร้างรถเเข่งเพื่อมาทดสอบความเร็วเเข่งกันเด็กๆชอบกันมากกกกกกก จากที่ผมสังเกตดู สมองผมไม่ค่อยมี 555555555สร้างสรรค์ได้เเค่นี้ ขอขายของเเทน ฮ่าๆๆๆๆๆ อันนี้ให้เด็กๆ ทดสอบความกล้ากันได้เลย เเบบนั่งเเล้วจะดึงขึ้นไป คล้าย Tower shot นั่นเองงงงหมดแแล้วกับโซน Imagination…ไปต่อกันดีกว่ากับโซน LEGO® NINJAGO™ WORLDง่ายๆคือนินจานั่นเอง มีให้เราปีนป่ายยยย อันนี้สนุก ผมก็เล่น คือจะให้นั่งคล้ายๆรถไฟเข้าไป เเล้วจะมีเซนเซอร์จับให้เราขว้างเหมือนขว้างดาวกระจายให้โดนเป้า จบรอบมาดูว่าใครได้คะแนนเยอะสุด ฮ่าๆๆๆๆผมปาเเทบไม่โดนนนนนนน..ไปต่อกันที่ Land Of Adventureอันนี้จะมีหลายอย่าง มีคล้ายๆซูเปอร์สแปลชที่ dream worldเรียกว่า Dino Islandเเต่วันที่ผมไป ซ่อมพอดี อยากร้องไห้ T T อันนี้ก็เป็นเครื่องเล่นนั่งเเล้วขึ้นไปหมุนๆ ฮ่าๆและตรงข้ามเครื่องเล่นนี้จะมีเหมือนบ้านบอล บ้านตาข่าย ให้เด็กๆไปปีนป่ายลุย Adventure กันได้ สนุกเเน่นอน (ผมไม่ได้ถ่ายมา ขอโทษด้วยยยยครับ) ส่วนอันนี้ก็สนุก 555 ผมเล่นไป 3-4 รอบอะเข้าไปละยิงปิ้วๆๆๆๆ เเล้วดูว่าใครคะแนนเยอะสุดดดดเป็นเหมือนปืนเลเซอร์อะ ชอบบบบอันนี้มากกกก..ตัดไปที่โซน LEGO® TECHNICโซนนี้เป็นโซนที่วัยรุ่นน่าจะสนุก รวมถึงวัยผู้ใหญ่ด้วยเพราะมีเครื่องเล่นจุดเด่น คือรถไฟเหาะแบบสวมแว่น VR เสียวกว่าเดิมอีก 555และยังมี LEGO® Star Wars™ Minilandนอกจากนี้ยังมีอะไรน่าสนใจอีกเยอะไปดูกันนน เริ่มจากอันนี้ที่บอกว่าเล่นรถไฟเหาะเเบบใส่เเว่น VR”The Great LEGO Race”อย่าว่างั้นงี้เลย ผมอายุ 23-24 เเล้ว ยังสนุกเสียวมาก 55555555555555555 รู้สึกว่าเสียวกว่าเล่นเเบบไม่ใส่เเว่น VR อีก อันนี้คือ Aquazone® Wave Racersให้เราหมุนพวงมาลัยเเล้วมันจะหมุนรอบตัวเองโดยที่เครื่องเล่นจะเหวี่ยงเราไปด้วยอยู่เเล้วคือเหวี่ยงเเรงมาก 555555 ดูจากผมที่ปลิว หรือดูจากหน้าแม่ผมเสื้อเขียวข้างหลังก็ได้ ฮ่าๆๆๆๆๆ แต่น เเต๊น เเต้นนน ….อันนี้สาวก Star wars คงชอบเเม้ผมไม่ใช่ ยังรู้สึกทึ่งกับการใช้เลโก้สร้างเลยรู้สึกมันปราณีตเเละสวยมาก เดี๋ยวเอาตัวอย่างภายในนั้นมาให้ดูเป็นน้ำจิ้ม นี่เป็นแค่น้ำจิ้มเล็กน้อยๆมาให้ดูกันน ..ไปต่อกัน โซนนี้ยังไม่หมดยังมีร้านอาหาร อีกด้วย เผื่อใครหิวมากินเเถวนี้ครับ หน้าไอสไตน์นี่ก็สื่อถึงการเรียนรู้นั่นเองกับ LEGO® Academyที่ให้เรียนรู้ฝึกฝนความคิดสร้างสรรค์ในห้องแอร์ หรือออกแบบสร้างหุ่นยนต์เลโก้ก็ได้..ใกล้จะหมดกันเเล้วเหลืออีก 2 โซนโซนรองสุดท้ายนี้คือ LEGO® KINGDOMS โซนนี้เด่นคือมีปราสาท เหมือนเป็นอาณาจักรนั่นเอง มีของที่ระลึกขาย มีบัลลังค์ให้ถ่ายรูปสวยๆ เเละมีทีเด็ดคือ….The Dragon รอดูเลย อิอิ เป็นอาณาจักรก็ต้องมีพระราชา เป็นไงท่าผม 555รู้สึกตัวเองแรดมากจริงๆ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ สำหรับเด็กๆ ก็เล่นขี่ม้าน่ารัก ชิคๆไปก่อนนนอกจากอันนี้ก็มีอันอื่นอีกหลายอัน เเต่ผมไม่ได้ไปเพราะวัยรุ่นใจร้อนอย่างผม แน่นอนไป The Dragonnnnn!!! ดีกว่า และนี่เองคือ The Dragon เข้าใจหรือยังทำไมชื่อนี้เพราะเป็นรถไฟเหาะที่รางเป็นเหมืองมังกรนั่นเอง ตัวรถไฟเหาะก็เป็นรูปมังกรนะครับสนุก 55555555555อันนี้จัดไป 3 รอบ เบาๆ..ไปที่โซนสุดท้ายดีกว่า ก็คือ LEGO® CITY ที่นี่เหมือนเมืองจำลองให้เด็กๆฝึกขับรถ ขับเรือ เครื่องบิน ทำอาหาร shipyard ดูละครเวที หรือเป็นพนักงานดับเพลิงก็ยังมีไปดูกันนน ฝึกขับรถ อย่างถูกกฏจราจร มีทั้งเด็กเล็กเเล้วแบบวัยประถม สอนให้เด็กเคารพกฏ สร้างจิตสำนึกต่อส่วนรวมได้ดีเลยครับ มีขับรถก็ต้องมีขับเรือ ผู้ใหญ่ก็สนุกไปด้วย 555 ส่วนของ Shipyard สร้างเรือกันไปปป ร้านอาหาร มีข้าวขายจริงๆ หลากหลายเมนูไปเติมเต็มพลังได้ ชอบอันนี้ สนุกไปทั้งครอบครัวไปเป็นนักกู้ภัย ดับเพลิงกันนนพ่อแม่ช่วยสร้างแรงดันน้ำ ส่วนเด็กๆยิงน้ำดับไฟ เป็นกิจกรรมครอบครัวที่ดีเลย Airport ก็คือเรานั่งเครื่องบินเเล้วมันจะเหวี่ยงหมุนๆนั่นเองง ที่นี่จะเป็นเหมือนโรงละครเวที มีเป็นรอบๆเเต่ผมไม่ได้รอ เพราะว่าเหนื่อยเเล้ว อยากกลับไปพัก 55555ดีเเล้วไม่ได้ซื้อสวนน้ำเพราะมันใหญ่พอสมควรเลยเฉพาะเเค่ส่วน Theme park ก็หมดวันเเล้ว..ที่ผมไม่พูดถึงโซน The Beginningเพราะมันคือโซนร้านขายของที่ระลึกเฉยๆ อ่อเห็นตึกด้านหลังไหมครับ ที่มีโรงเเรมด้วยนะครับเเต่คนนอกเข้าไม่ได้ ผมเลยไม่ได้เข้าไปถ่ายมาให้ดูนะครับผม ตอนนี้ก็เริ่มเย็นๆเเล้วก็ออกมานั่งพักให้หายเหนื่อยรอรถบัสสาย LM 1 (ที่เดิมที่เราลง ตอนนั่งมา)เพื่อนั่งกลับไปที่ JB Sentral ย้ำ !! สาย LM1 นะครับ นั่งกลับก็ชิวๆเหมือนเดิม ราคา 4.50 ริงกิตเดินทางประมาณ 40-50 นาที ผมรู้สึกว่าเร็วกว่าตอนนั่งมา ไปถึง JB Sentral ปุ๊บ ก็เดินไปห้างเลยเพื่อหาของกินปั๊บ เดินทั้ง Komtar และ City square สุดท้ายเลือกกินร้านนี้ มีทั้งซูชิจานเวียน หรือจะสั่งเมนูอาหารชุดอื่นๆ ก็ได้(แม่ผมทานอาหารมาเลเซียได้น้อย เลยไม่ค่อยมีรีวิวอาหารมาเลเซียนะครับ ) เพื่อนผมสั่งซุชิมา ผมกินปูนิ่มทอดดดดดด แม่ทานข้าวหน้าหมูผัดอะไรสักอย่าง ฮ่าๆ55555จำไม่ได้เเล้ว เเม่บอก เเต่อร่อยยยย วันนี้กะชิว กินข้าวเสร็จเลยไปร้าน Morganfield’s ที่ตึก Zenite ข้างที่พักเรานั่นเองเพราะเห็นว่าเบียร์ถูก 555 บรรยากาศร้านรอบๆ เลยสั่งเฟรนฟรายด์เเละเบียร์มานั่งทานไม่แพงนะเบียร์ ตกประมาณ 10-15 ริงกิตต่อแก้ว ถ่ายรูปชิคๆ กันหน่อยอย่ารำคาญกันเลย เผื่อไปกันเเล้วคิดมุมไม่ออก 5555จะได้เลียนแบบเลย ฮ่าๆ พอได้ไหมครับมุมนี้ ^^วันที่สอง ก็หมดเเค่นี้ผมก็ไปเข้าที่พักกัน..ถือโอกาสพูดถึงในห้องหน่อยละกันคงมีหลายคนอยากเห็นในห้อง Amari Johor Bahru จะเป็นยังไงผมพักที่ห้อง “Grand Deluxe Room” เป็นห้องพักหัวมุม มีระเบียงด้านข้างนะครับไม่พูดไรเยอะเเค่เอามาให้ดู เผื่อบางคนจะได้ตัดสินใจจจ ที่ชอบสุดคือ มาพักที่นี่ไม่ต้องเอาปลั๊กเปลี่ยนหัวมาเพราะที่นี่เค้าทำให้ไม่ว่าหัวเสียบจะเเบบไหนก็เสียบได้ ชอบมากกกกกกก!!!!! เลิฟเลยอันนี้(จริงๆที่มาเลจะใช้สามขา แบบสี่เหลี่ยมอันนึง)จากภาพผมก็ใช้ตัวเสียบเป็นสองขาปกติเหมือนที่ใช้ในไทยไปเสียบ ใช้ได้สบายยยย ;Dเย้!!..วันนี้ก็นอนกันดีกว่า พรุ่งนี้ 6.55 โมงเย็น ก็ต้องนั่งกลับไทยเเล้วคร่อกกกก……Z Z Z Z เช้าเเล้ววก็ตื่นลงมาทานอาหารที่เดิมของเรา กินอิ่มอร่อยเหมือนเดิมมมของเยอะเหมือนเดิม วันนี้ตัดสินใจไม่ไปไหนเเล้วกะเเค่ไปซื้อของช็อปปิ้งอย่างเดียวใน outlet ในห้าง Komtarเลยไปออกกำลังกายฟิตเนส ว่ายน้ำดีกว่า ข้อดีของฟิตเนสที่นี่คือ เปิด 24 ชม. นะจ๊ะะะะะ เล่นฟรี เรียกได้ว่าคนรักสุขภาพนี่ชอบเลย ผมก็ยกๆเวทไปงั้น อย่าถือสา 555 ผมไม่ค่อยออกกำลังกายเท่าไหร่ เเต่เอามาให้ดูว่าที่นี่ก็มีนะะะ ฮ่าๆๆๆๆ อันนี้คือปั่นไปด้วย เล่น Facebook, Youtube, Twitter หรือเอฟวี่ติง จิงเกอเบลไปด้วยได้เลย ..ผมชอบว่ายน้ำมากกว่า อิอิไปสระกันดีกว่า สระน้ำที่นี่ จำไม่ผิดจะปิด ตี2 เลยนะ 5555ใครกล้ามาว่ายบ้าง ผมไม่ละ 1 ฮ่าๆๆๆตอนนี้ข้างๆสระกำลังสร้างบาร์เพิ่มด้วย ใครมาทันสร้างเสร็จ ถ่ายมาอวดผมด้วยนะครับ ขนาดที่สระน้ำเราก็ทำให้เป็นรันเวย์ได้ 55555555555555555 ..ตอนนี้ก็เที่ยงวันเเล้ว ว่ายน้ำมาเหนื่อยๆ เริ่มหิวเเล้วด้วย ไป Check out กันดีกว่า เเล้วฝากของไว้กับ Lobby (ไม่เสียเงิน)เเล้วเดินตัวปลิวไปหาอะไรกินดีกว่า มื้อสุดท้ายก่อนไปสนามบินเราเลือกทาน Arashi shabu-shabu ที่ Komtar ที่เดิมของเรานั่นเอง ก็สั่งเป็นชุดๆมาทานราคาไม่แพง รสชาติดี น้ำซุปมีให้เลือกเยอะเเต่ข้อเสียชอบชาร์จอะไรไม่รู้ยิบย่อยเยอะ โดยที่ไม่ได้เเจ้งก่อนเช่น ผ้าเย็นคิดเงินเลยเเม้ไม่ได้ใช้ เซอร์วิส ค่าน้ำซุป ที่เเย่สุดคือ ของดองเอามาวางพร้อมตอนเสิร์ฟชุดอาหารเเต่คิดเงินเพิ่ม เลยรู้สึกแย่หน่อยๆเเต่รสชาติก็อร่อยดี..หลังจากนี้ ผม เพื่อน เเละเเม่ผม ก็ไป Shopping กันบ่ายสามก็ไปเอากระเป๋าที่ Lobby เพื่อนั่งรถบัสไปสนามบินกัน การขึ้นรถบัสก็ง่ายๆเหมือนเดิมที่พักเราใกล้ JB Sentral อยู่เเล้ว เดินมาที่ป้ายเลข 1 นี้ รอรถแบบนี้ ของ Causeway Link วิ่งไป Senai Airport ค่ารถก็ 8 ริงกิตเท่าตอนนั่งมาวันแรก ระหว่างทางมองข้ามแม่น้ำไปตึกฝั่งตรงข้ามนั่นไง สิงคโปร์นั่นเอง (คิดว่าใช่นะ ถ้าผิดขออภัยยยย) วันสุดท้ายกันเเล้วเที่ยวซะทั่วเลย ตอนจะจากกันก็มีฝนตกลงมา ให้ความรู้สึกเหงาๆเลย มาถึงสนามบินเเล้วเช่นกันตอนกลับ ง่ายๆ เรานั่ง Airasia บินตรงจากยะโฮร์บาห์รู มุ่งกลับสู่ดอนเมืองรอบเวลา 18.55 น.(เวลามาเลเซีย) ถึงบ้านเราดอนเมือง 20.15น. (ตามเวลาบ้านเรา)**บ้านเราช้ากว่า 1 ชั่วโมง Self Check-in ง่ายกันเลย ชอบ Airasia ตรงนี้มากไม่ต้องไปต่อเเถวเลย(อย่าลืมนะทริปนี้ผมแลกตั๋วเครื่องบินฟรีมาจากแต้ม BIG Points ด้วย อิอิ) ลาก่อนนะ Senai Airport ลาก่อน ยะโฮร์บาห์รู ;D เป็นไงกันบ้างกับคู่มือเที่ยวอย่างละเอียดยิบ3 วัน 3 คืน ณ ยะโฮร์บาห์รู ของผม ชอบกันไหมเอ่ยยยย ถ้าชอบรีวิวของผม สามารถเข้ามาพูดคุยติดตามกันได้นะครับฝากกดไลค์ ติดตามกันหน่อยนะครับ ;D ผมจะได้มีกำลังใจดีดีครับผมที่เพจ https://www.facebook.com/KonbaTravel/ ก่อนไปเรามาสรุปคร่าวๆกันดีกว่า-บินตรงยะโฮร์บาห์รู-ดอนเมือง กับ Airasia-ใช้ BIG points แลกตั๋วเครื่องบินฟรีได้ (เสียเเค่ภาษีสนามบิน)-วันแรกเที่ยวรอบเมือง เดินเอาได้-วันสองยกให้ Legoland-ที่นี่ติดสิงคโปร์ สามารถไปเที่ยวต่อได้เลย-ที่พักดีดีไม่แพง Amari Johor Bahru ความรู้สึก-Legoland : เหมาะมากที่สุดสำหรับครอบครัวที่อยากพาเด็กๆไปเที่ยวแบบได้พัฒนาสมอง เเละสนุกสนานไปด้วยได้ทั้งกิจกรรมครอบครัวร่วมกันด้วย -Airasia : บริการดีมาก บินตรงเลย มี Self check-in อีก แถมใช้ BIG Points แลกตั๋วฟรีได้-Amari Johor Bahru : ทันสมัย สะอาด มีกิจกรรมเยอะ อาหารเยอะ ดีมาก Locationดี แนะนำ-เที่ยวรอบเมือง : ส่วนใหญ่เป็นสถานที่ราชการ วัดหลายศาสนา เเละสถาปัตยกรรม-Shoping : มี Outlet ในห้าง Komtar 2 ร้าน ราคาน่ารัก-คมนาคม : ดีมาก สบายเลย -อาหาร : ไม่ค่อยถูกปากผมเท่าไหร่ เพราะชอบทานอาหารรสเผ็ด-ผู้คน : มีระเบียบวินัย เท่าที่เจอมีเเค่คนน่ารักๆมาคุยด้วย มีหลายเชื้อชาติ -ราคา ค่าครองชีพ : ไม่แพง บางอย่างถูกกว่าไทยด้วยซ้ำ เอาล่ะ คงต้องจากกันจริงๆเเล้วฝากไปเป็นกำลังใจ กดไลค์ ติดตามเพจผมด้วยนะครับสัญญาจะทำทริปดีดีต่อมาเรื่อยๆ (สปอนเซอร์ สนใจติดต่อได้นะครับ ยินดีอย่างยิ่งงง 55555555555555555555) วันนี้แก็ปขอลาไปก่อนบ้ายบายยยยยยยย;D