เกาะเต่า เกาะที่นักเดินทางทั่วโลกจะต้องเดินทางมาที่นี่สักครั้งในชีวิตด้วยความงามของโลกใต้ทะเลที่ขึ้นชื่อ มีทั้งเต่าและฉลามที่พบเห็นได้ทั่วไปแม้แต่ความสวยงามของน้ำทะเล ชายหาดและจุดชมวิวต่างๆ ก็เด่นไม่แพ้กัน เจกับมะยมเดินทางไปเกาะเต่ากันครั้งแรกเลย ไปกัน 3 วัน 2 คืนหมดห่วงเรื่องการเดินทาง ที่กิน ที่พัก ที่เที่ยว เพราะได้คำปรึกษาดีๆจาก The Islander Thailand ที่ดูแลและจัดการให้แทบทั้งหมดเลย การเดินทางไปเกาะเต่า สามารถไปได้หลายแบบ ทั้งรถทัวร์ เครื่องบิน หรือขับรถไปเองทุกแบบต้องไปต่อเรือเหมือนกัน และแน่นอน เจกับมะยมเลือกขับรถไปเองออกจากกรุงเทพฯ 4 ทุ่ม ไปถึงท่าเรือบริษัทลมพระยาตี 4 ค่าจอดรถวันละ 50 บาทได้นอนพักสักงีบ แล้วรอขึ้นเรือรอบเช้าเวลา 7 โมงเช้า จากท่าเรือลมพระยา (ชุมพร) เดินทางถึงเกาะเต่า ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 9 โมงเช้า เราก็มาถึงเกาะเต่า ระหว่างรอ Check In เข้าที่พัก ก็มานั่งรอได้ที่The Islander Cafe ใกล้ท่าเรือเลย หรือจะเดินเล่นแถวๆ นี้ก็ได้ The Islander Cafe มีอาหารและเครื่องดื่มบริการด้วย ก่อนเข้าที่พักช่วงบ่าย ก็สั่งอาหารทานกันก่อน เดี๋ยวจะหิวเอาน้า เจกับมะยมเลือกพักที่ Blue Heaven Koh Tao เป็นแพ็คเกจที่พัก 3 วัน 2 คืนรวมทัวร์ดำน้ำ พร้อมรถรับส่งท่าเรือและอาหารอีก 3 มื้อ ในราคา 3,499 บาท/คนที่พักจะอยู่บนเขา เห็นวิวทะเลได้สวยงามมาก มีทั้งห้องพักสำหรับ 2 คนและแบบครอบครัวเก็บของเข้าที่พักกันแล้ว นอนพักสักแปป ได้เวลาออกไปสำรวจเกาะกัน การเดินทางในเกาะเต่า แนะนำให้เช่ามอเตอร์ไซค์ขับ ค่าเช่าวันละ 200 บาทจะหาเช่าเองแถวๆ ท่าเรือหรือติดต่อผ่าน The Islander Thailand ก็ได้จุดแรกเราจะไปที่จุดชมวิวจอห์นสุวรรณกัน เสียค่าเข้า 100 บาท ระหว่างทางก็สวยแล้ว(ค่าเข้า 100 บาท ได้น้ำเปล่า 1 ขวด พร้อมกิจกรรมปีนเขา พายคายัค) ใช้เวลาประมาณ 20 นาที เราก็เดินขึ้นมาถึงจุดชมวิว ด้านบนสวยมากๆทางซ้ายจะเป็นอ่าวโฉลกบ้านเก่า ทางขวาจะเป็นอ่าวฉลาม (Shark Bay) ก่อนถึงทางเข้าจุดชมวิวจอห์นสุวรรณ ยังมีอีกหนึ่งจุดชมวิวชื่อซันสุวรรณ ด้านบนเป็นคาเฟ่ด้วย เสียค่าเข้า 50 บาท ได้น้ำเปล่า 1 ขวด ตอนเย็นเราไปชิวกับวิวหลักล้าน พร้อมสระว่ายน้ำ มองเห็นวิว 180 องศาที่ Aminjirah Resort Koh Tao ไม่ได้เข้าพักก็เข้ามาใช้บริการได้ เสียค่าเข้า 300 บาทใช้เป็นค่าอาหารและเครื่องดื่มได้ อาหารราคากลางๆ ไม่แพงเท่าไร ถึงแม้วันที่เราไป ฟ้าจะไม่เปิดเท่าไร แต่พระอาทิตย์ตกที่เกาะเต่าก็สวยไม่แพ้ที่ไหนเลย เช้าวันที่สอง ตื่นมาทานอาหารเช้าที่ทาง Blue Heaven จัดไว้ให้ จะมีให้เลือกเป็นเซ็ตวันนี้ 11 โมงเช้า เรามีแพลนไปทัวร์เกาะนางยวนและดำน้ำดูโลกใต้ทะเลกัน เรารีบทานอาหารเช้า แล้วแง๊นมอเตอร์ไซค์ไปที่จุดชมวิว Summit ค่าเข้า 50 บาทจุดนี้ต้องบอกเลยว่า ทางขึ้นเขาเป็นทางดินโหดมากๆ ใครไม่ชำนาญทางต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ใกล้ๆ กันมีคาเฟ่ 180 Viewpoint เป็นจุดชมวิวด้วย เข้าไปแวะพักได้ ค่าเข้า 100 บาท ได้น้ำมะพร้าวเย็นๆ พร้อมวิวตรงหน้าแบบนี้หายเหนื่อยเลย น้ำมะพร้าวที่เกาะเต่า รสชาติดีมากๆ เรากลับมาที่ Blue Heaven 11 โมง ได้เวลาออกไปเกาะนางยวนและดำน้ำรอบๆ เกาะเต่า จะมีรถของทัวร์บริการรับส่งเราจากโรงแรมเลยทัวร์จะมีหน้ากากดำน้ำ เสื้อชูชีพ ไว้ให้เราด้วย เราไปเกาะนางยวนกันที่แรก ค่าเข้าเกาะ คนไทย 30 บาท ต่างชาติ 100 บาทเกาะนางยวนเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ ที่ใครมาเกาะเต่าต้องมาที่นี่ เพราะมีจุดชมวิวที่สวยมากๆเกาะนางยวนห้ามนำพลาสติกทุกชนิดเข้ามาที่เกาะน้า พวกเราช่วยๆ กัน จุดชมวิวเกาะนางยวน ด้านบนวิวสวยมากๆ แต่ก็คนเยอะมากๆ เหมือนกัน บ่ายโมง กลับมาที่เรือเพื่อทานอาหารเที่ยงบนเรือจะมีน้ำเปล่า กาแฟ ขนม ผลไม้ ไว้บริการทานอาหารเที่ยงเสร็จแล้ว ได้เวลาไปดำน้ำรอบเกาะกันทั้งหมด 5 จุดในแต่ละวันอาจมีเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศด้วยน้า โลกใต้น้ำที่นี่ไม่ธรรมดาเลย แค่ดำน้ำตื้น (Snorkeling) ก็เห็นปะการังสวยๆ แล้ว The Islander Thailand มี Paddle Board ให้เช่าวันละ 1000 บาท ไว้เล่น ถ่ายรูปเก๋ๆ มาเกาะเต่าก็ต้องเจอน้องเต่า เต่าที่นี่เยอะมากๆ มีโอกาสเจอได้ไม่ยากเลยดำน้ำกันเสร็จแล้ว เรือจะส่งเรากลับเข้าฝั่งประมาณ 5 โมงเย็น มีรถมาส่งถึงโรงแรมเลย ถึงโรงแรมรีบอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วขี่มอเตอร์ไซค์มาที่ร้าน Whitening อยู่ที่หาดทรายรี ที่ร้านมีทั้งอาหารและเครื่องดื่ม ดำน้ำมาเหนื่อยๆ รองท้องเบาๆ กันก่อน แสงสุดท้ายของวันที่หาดทรายรี สวยเหมือนกันนะเนี่ย ดึกๆ ถ้ายังไหว ไปต่อกันที่ Lotus Bar อยู่ท้ายๆ หาดทรายรี ไฮไลท์ของที่นี่ จะมีโชว์ควงไฟ ตั้งแต่ 2 ทุ่มเป็นต้นไปโชว์ควงไฟของที่นี่เจ๋งมากๆ บอกได้คำเดียวว่าจะลืมทุกที่ที่เคยดูมาเลย เช้าวันสุดท้าย ขอตื่นสายนิดนึง อาหารเช้าที่นี่พร้อมทานได้ตั้งแต่ 8 โมงเช้า ที่ Blue Heaven มีมุมถ่ายรูปสวยๆ เยอะเหมือนกัน ชั้นดาดฟ้าวิวดีมาก เวลา Check Out 11 โมง ก่อนออกไปทานอาหารเที่ยงกันก่อนThe Islander Thailand จัดให้ในแพ็คเกจแบบพิเศษสุดๆ เรากลับเรือรอบ 14.45 น. ทานอาหารเที่ยงเสร็จ ขี่มอเตอร์ไซค์ไปเที่ยวได้อีกส่วนกระเป๋าและสัมภาระ ทางโรงแรมจะไปส่งให้ที่ The Islander Cafe ระหว่างรอเวลาขึ้นเรือ เรามาชิลกันที่ Lollipop Cafe คาเฟ่ริมทะเล บรรยากาศที่นี่ร่มรื่นมาก นั่งชั้นบนรับลมเย็นรอเวลา สบายตัวจริงๆบ่าย 2 กว่าๆ เราก็ขี่มอเตอร์ไซค์ไปคืนร้านเช่า แล้วเดินไปรับสัมภาระที่ The Islander Cafeรอขึ้นเรือของลมพระยากลับฝั่งที่ชุมพร จะกลับมาถึงฝั่งเกือบๆ 5 โมงเย็น จริงๆ แล้ว การมาเที่ยวเกาะเต่า ไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิดเลยเป็นการมาเกาะเต่าครั้งแรกของเจกับมะยม ที่เต็มไปด้วยความรู้สึกดีๆขอบคุณตัวเองที่ได้มาสัมผัสกับเกาะที่สวยงามและมีเสน่ห์แห่งนี้ หมดห่วงทุกปัญหาทั้งการเดินทาง ที่กิน ที่พัก ที่เที่ยว บนเกาะเต่าด้วยตัวช่วยที่ปรึกษาดีๆ ของเราอย่าง The Islander Thailand ” I will love you until the salt leaves the sea “_________________________________ The Islander ThailandTel : 096 649 9906 #TheIslanderThailand#จะออกไปแตะขอบฟ้า